เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมในการทำนาทำให้ทุกวันนี้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเยอะแต่บางอย่างต้องแลกมาด้วยการรับปริมาณสารเคมีเพิ่มตามไปด้วย
วันนี้ไปเปิดดู memory back ใน Facebook เจอภาพเก่าสมัยกลับไปฮอลิเดย์แล้วไปช่วยเขาเกี่ยวข้าวเลยนึกถึงสมัยเด็กที่เคยช่วยพ่อทำนา สมัยนั้นทำนาใช้ควายเป็นหลักในการไถ คราด ที่บ้านมีควายตัวผู้ตัวหนึ่งชื่อไอ้ถึก ไอ้ถึกเป็นควายที่ตัวใหญ่มาก บึกบึนโหนกคอนี่ใหญ่แข็งแรงมากและไอ้ถึกนี่แหละเหยียบเราขาหักเนื่องจากว่าเราและพี่ชายเอาผ้ายางสีขาวมาปูนั่งเล่นกันสองคนโดยมีไอ้ถึกเดินเล็มหญ้าอยู่ใกล้ๆกันสักพักมันเดินมาดมที่ผ้ายางที่ปูไว้ทำจมูกฟืดฟาดอยู่พักหนึ่งแล้วลมเจ้ากรรมดันพัดผ้ายางกระพือขึ้นมันเลยตกใจวิ่งมาเหยียบโดนขาเราจนหัก เราไม่โกรธไอ้ถึกเพราะเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก เข้าเรื่องทำนาต่อเมื่อพ่อเริ่มลงมือทำนาเท่าที่จำได้คือไถ คราด แล้วก็หว่านกล้าข้าวไว้พอต้นกล้าขึ้นได้สักเกือบเท่าหัวเข่าก็ถอนกล้าไปปักดำ เมื่อข้าวออกรวงสุกก็เกี่ยววางตากไว้ก่อนตอนเช้าๆมืดก็ตื่นแต่เช้าไปแบกข้าวขึ้นลานข้าว การทำลานข้าวสมัยนั้นคือถากตอข้าวออกแล้วก็ยาด้วยขี้ควายผสมน้ำทาให้ทั่วลานข้าวแล้วก็ปล่อยให้แห้งจากนั้นก็ขนข้าวมาวางเรียงๆกันไว้เป็นชั้นๆเวลานวดก็ใช้มือนวดพวกเราเรียกว่าทุบข้าวด้วยการใช้ไม้สองอันมัดด้วยไม้ห่างประมาณหนึ่งฝ่ามือ เวลาจะทุบข้าวก็ใช้ไม้งับฟ่อนข้าวให้แน่นแล้วก็ทุบจนข่้าวร่วงหมดจึงฟาดฟางข้าวไปข้างหน้า ถ้าทำเป็นจะง่ายมาก เราชอบช่วงนวดข้าวที่สุดเพราะได้นอนกองฟางอุ่นดี
ผ่านมาหายสิบปีเราก็ไม่ได้ยึดอาชีพทำนาตามพ่อเราเลือกที่จะมาทำงานกรุงเทพเป็นพ่อครัวแล้วเราก็มาทำงานอังกฤษเมื่อเรากลับไปฮอลิเดย์เราไปช่วยพ่อตาเกี่ยวข้าวสมัยนี้เกี่ยวกันรวดเร็วเอารถเกี่ยวลงไม่กี่ชั่วโมงก็เสร็จแล้วต่างกับสมัยก่อนที่ต้องเกี่ยวกันเป็นเดือนกว่าจะเสร็จโลกมันเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ